Thailand

Poko-chan

bg-header-site-01.png

เคล็ดลับเลี้ยงดูลูกน้อย 7

เคล็ดลับเลี้ยงดูลูกน้อย 7

อุจจาระทารกแรกเกิด

เชื่อไหมคะว่าสีและลักษณะอุจจาระของลูกนั้น สามารถบอกอะไรเราได้มากมาย เรามาดูข้อควรระวังเรื่องอุจจาระทารก และ ทารกแรกเกิดกันค่ะ

- หากผ่านไป 3-4 วันแล้วลูกยังอึเป็นขี้เทาอยู่แสดงว่า ลูกกินนมไม่เพียงพอหรืออาจจะดูดนม ไม่ถูกวิธีซึ่งควรแก้ไขเรื่องการดูดนมแม่ ด้วยการจัดท่าทางที่เหมาะสม

- เมื่อลูกอายุ 1 เดือน จะเริ่มอุจจาระเพียงวันละ 1 ครั้งเท่านั้น แต่หากลูกถ่าย 2-3 วันต่อครั้งแล้วอุจจาระยังเป็นสีปกติเหมือนเมื่อทุกครั้งที่ผ่านมา ไม่เหลว หรือแข็งจนเกินไป ก็ถือว่าปกติอยู่ค่ะ ในบางครั้งเด็กที่กินนมแม่อาจจะถ่ายทุก 2-3 วัน ถ้าลักษณะอุจจาระปกติก็ไม่ต้องกังวลค่ะ

หากลูกอุจจาระเหลว เละ เป็นน้ำ วันละหลาย ๆ ครั้งแถมอึยังมีกลิ่นเหม็นเน่าหรือมีมูกปน ติดต่อกันและดูเหมือนจะไม่ดีขึ้น เลย คุณแม่ควรพาลูกพบคุณหมอเพื่อปรึกษาอาการที่เกิดขึ้น เพราะอาจจะเกิดจากอาการท้องเสีย ซึ่งต้องรีบรักษาก่อนจะเป็นอันตรายค่ะ

ขอบคุณรูปภาพประกอบจากคุณ คนเก่ง ก็เจ็บได้ร้องไห้เป็น

ความสำคัญของการคลาน

การคลานเป็นพัฒนาการด้านร่างกายที่สำคัญของทารก เพราะเป็นพื้นฐานสู่ขั้นต่อไปก็คือ การเดิน ซึ่งสำหรับการคลานนั้น กล้ามเนื้อแขนและขาจะต้องเคลื่อนไหวสัมพันธ์กัน การคลานจะช่วยให้ลูกเกิดการเรียนรู้เรื่องการควบคุมตัวเอง รวมไปถึงการปฏิสัมพันธ์กับคนรอบข้าง โดยเรียนรู้คำสั่งของพ่อแม่ และเมื่อลูกคลานได้ นั่นหมายความว่าประสาทสัมผัสทั้งห้าจะทำงานสัมพันธ์กับสมอง ซึ่งแน่นอนว่าจะส่งผลดีต่อพัฒนาการทางร่างกายของลูก อย่างไรก็ดีพบว่าเด็กจำนวนมากพัฒนาการข้ามขั้น โดยลูกไม่ยอมคลานแต่เกาะยืนและเดินได้เลย

คุณแม่อย่าลืมทำให้ลูกน้อยสบายตัวโดยการเลือกผ้าอ้อมที่ซึบซับดี กระชับตัว เพื่อส่งเสริมให้ลูกเคลื่อนไหวได้อย่างเต็มที่นะคะ

ขอบคุณรูปภาพประกอบจากคุณ กรกต เฉิน‎

ดูแลผิวก้นลูกให้ปลอดภัยจากผดผื่น

ผิวของลูกน้อย ถือว่าเป็นบริเวณที่มีความบอบบางมาก โดยเฉพาะผิวบริเวณก้นลูกที่ต่อมเหงื่อยังทำงานไม่สมบูรณ์ และโครงสร้างของผิวก็ยังไม่แข็งแรง จึงเป็นเหตุให้ผิวบริเวณก้นลูก มักเกิดผดผื่นขึ้นได้ง่ายกว่าบริเวณอื่นๆ เรามาดูวิธีดูแลผิวก้นลูกให้ปลอดภัยกันเถอะค่ะ

1.ทำให้ผิ้วก้นลูกที่ใส่ผ้าอ้อมนั้น แห้งอยู่เสมอ โดยหมั่นเปลี่ยนผ้าอ้อม เมื่อมีเกิดการเปียกชื้นขึ้น หรือเมื่อลูกอุจจาระทุกครั้ง ก็ควรเปลี่ยนผ้าอ้อมทันที ไม่ควรปล่อยให้เกิดการหมักหมมของสิ่งสกปรก

2.เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวลูก ด้วยการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารที่ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว บำรุงผิวให้เนียนนุ่ม

3.หากบริเวณก้นลูกน้อยเกิดเป็นผื่นผ้าอ้อม ควรทายาให้ที่เหมาะกับความรุนแรงของผื่น เช่น

  • ถ้าเป็นผื่นแดงเล็กน้อย ควรใช้ผลิตภัณฑ์ทาผิวที่สะอาดปราศจากเชื้อ และมีส่วนผสมของ zinc oxide ที่ช่วยดูดซับความชื้น

  • ถ้าผื่นแดงอักเสบปานกลาง ถึงมาก ควรใช้ยาทาคอร์ติโคสเตียรอยด์ที่มีฤทธิ์อ่อน เช่น 1% Hydrocortisone ทาบางๆ

  • กรณีที่มีผื่นแดง หรือตุ่มน้ำเป็นวงกว้างนานเกิน 3 วัน อาจมีการติดเชื้อแทรกซ้อนขึ้นได้ เช่น เชื้อรา Candida หรือเชื้อแบคทีเรีย หากพบว่าเกิดผื่นแดง ควรรีบพาลูกน้อยไปแพทย์ เพื่อทำการรักษาโดยเร็ว

ขอบคุณรูปภาพประกอบจากคุณ Bee Tipsibut

ลูกหลับยาก

คุณแม่หลายท่านอาจเจอปัญหาในการนอนของลูกน้อย ลูกน้อยบางคนดิ้นไปดิ้นมา ร้องครางทุรนทุรายก่อนจะนอน จริงๆแล้วการเข้าสู่การหลับของคนแต่ละคนแตกต่างกันค่ะ เห็นใด้ชัดในช่วงเวลาเล็กๆ แบบนี้ ลูกคุณแม่มีอาการทุรนทุราย พลิกคว่ำพลิกหงายไปทั่วเตียง ร้องครางประจำทุกคืน แต่เด็กก็ไม่ได้เจ็บปวดอะไร บางทีการเกาหลังเบาๆ ร้องเพลงกล่อมก็เป็นการช่วยให้เด็กเข้าสู่ระยะเวลาของการหลับได้ง่ายขึ้น เคล็ดลับของการนอนหลับที่ดีคือ การออกกำลังกาย ถ้าร่างกายออกกำลังกายได้เต็มที่ สุดท้ายร่างกายต้องการการพักผ่อน จนทำให้เด็กหลับเร็ว หลับสนิท ต้องไปดูว่าเวลากลางวันมีคนเล่นกับเด็กมากพอหรือไม่ จนทำให้เด็กได้เคลื่อนไหว คืบคลานได้มากพอ ก็เท่ากับเป็นการออกกำลังกายไปในตัว แต่ถ้าอุ้มเด็กมากไปถึงแม้จะเล่นกับเด็กมาก แต่ผู้ใหญ่จะเป็นคนเหนื่อยและหมดแรงไปก่อนเด็ก แบบนี้ก็เรียกว่าเป็นการเล่นที่ไม่มีคุณภาพค่ะ

ขอบคุณรูปภาพประกอบจากคุณ ฐิตาภรณ์ บุญชู‎

กิจกรรมสำหรับเด็กวัย 1-3 ปี

หนังสือนิทานของเด็กวัย 1-3 ปี ควรเป็นประเภทไหน และมีวิธีการเลือกหนังสือนิทานให้เหมาะกับลูกน้อยอย่างไร เรามาดูกันค่ะ

ประเภทหนังสือนิทาน : หนังสือนิทานภาพ หนังสือนิทานกึ่งของเล่น เช่น หนังสือผ้า หนังสือลอยน้ำ และหนังสือ Board Books หนังสือนิทานป็อปอัพ

  • เนื้อเรื่องต้องสั้น เหตุการณ์ในนิทานไม่สลับซับซ้อนเกินไป สีสันสดใสและหลากหลาย ใช้ภาษาไทยถูกต้อง สั้น กระชับ เข้าใจง่าย และสุภาพ เพื่อให้เด็กได้เรียนรู้คำและภาษาไทยที่ถูกต้อง รูปเล่มมีความแข็งแรงทนทานต่อการใช้งาน ไม่มีมุมแหลมคม ขนาดเล่มไม่หนาเกินไป ส่วนกระดาษที่ใช้ก็ไม่ควรบางและคมเกินไปเพราะวัยนี้เริ่มใช้มือเปิดหนา หนังสือเองได้แล้ว

  • เปิดโอกาสให้ลูกได้พูดคุย ซักถามเรื่องราวในนิทานบ้าง เพราะเขาอยู่ในวัยช่างคุย สนุก และมีความสุขที่จะได้พูด

  • ชวนให้ลูกถาม-ตอบ สิ่งต่างๆ ที่อยู่ในนิทาน และจะช่วยให้ลูกได้เรียนรู้สิ่งต่างๆ เพิ่มเติม อย่าลืมสร้างบรรยากาศการอ่านให้สนุกสนานและน่าสนใจ สร้างการจดจำที่ดีกับการอ่านให้หนังสือด้วย

  • อย่าให้ทีวี เกม และคอมพิวเตอร์เร้าความสนใจของเด็กจนเกินพอดี เพราะเป็นการสื่อสารทางเดียวที่ไม่พัฒนาการเรียนรู้ของเด็กได้

  • บรรยากาศการอ่านที่เต็มไปด้วยความเครียดและความกดดันจากคุณพ่อคุณแม่ และหวังผลให้อ่านได้หลายๆ เล่ม จะทำให้ลูกไม่อยากอ่านหนังสือเพราะไม่มีความสุข

  • หากในบ้านไม่มีหนังสือให้ลูกอ่านเลย มีแต่ของเล่นหรือคอมพิวเตอร์ ลูกก็จะหันไปหากิจกรรมอื่นแทนการอ่าน ทำให้ลูกไม่รักการอ่านในที่สุด

ขอบคุณรูปภาพจากคุณ หนึ่งฤทัย โซ๊ะมัน

ส่งเสริมจินตนาการลูกน้อย

จินตนาการเริ่มได้ด้วยการเล่น เด็กในช่วงวัยแรกเกิดจนถึง 3ขวบ เป็นช่วงที่คุณพ่อคุณแม่ควรให้ความสำคัญเป็นพิเศษ เพราะว่าเด็กในวัยนี้เป็นช่่วงที่ระบบสมองของลูกกำลังพัฒนา ให้ลูกได้สนุกกับการเล่นส่องกระจก เด็กวัยประมาณ 4เดือนขึ้นไป สามารถส่องกระจกได้แล้วค่ะ การได้สนุกกับการเล่นส่องกระจก สามารถฝึกสอนพัฒนาการการเรียนรู้ของลูกได้อีกทางหนึ่ง ทำให้ลูกได้เห็นตัวเอง ซึ่งในช่วงแรกๆ ลูกอาจจะยังไม่เข้าใจ และงงกับรูร่างหน้าตาของตัวเอง แต่พอสักพักลูกก็จะเริ่มชินกับภาพที่เห็น และเริ่มเรียนรู้ และเข้าใจในที่สุด โดยคุณแม่สามารถนำกระจกมาฝึกให้ลูกลองอ้าปาก ฝึกให้ลูกลองยิ้ม หรือหัวเราะ เป็นต้น ลูกก็จะสนุกไปกับสิ่งที่เห็นค่ะ ทำให้ลูกรู้สึกเหมือนว่ามีเพื่อนเล่น แต่ทั้งนี้คุณแม่ก็ควรจะสลับสับเปลี่ยนการเล่นของลูกเป็นอย่างอื่นด้วยนะคะ เพื่อเสริมพัฒนาการทางด้านอื่นๆ ของด้วยค่ะ

ขอบคุณรูปภาพประกอบจากคุณ Sarinee Asawinnimit

ลูกน้อยนอนผวา

ลูกน้อยเคยมีอาการนอนผวากันบ้างหรือเปล่าคะ การนอนผวาของเด็กวัยแรกเกิด – 3 เดือนแรก ถือเป็นเรื่องปกติ เพราะอาการผวาเกิดจากระบบประสาทอัตโนมัติ ที่เรียกว่า Moro Reflex หากมีอะไรมากระตุ้นเพียงเล็กน้อย เช่น เสียงดัง แสงจ้า ลูกก็จะผวาขึ้นมาได้ทันที คุณแม่ลองหาผ้าบางๆ ห่อตัวให้ลูกเวลานอน หาหมอนมาวางข้างๆ ให้ลูกรู้สึกอบอุ่นและลดสิ่งกระตุ้น หลีกเลี่ยงสิ่งเร้าต่างๆ เช่น แสงสว่าง เสียงดังรบกวน เพียงเท่านี้ก็สามารถลดการผวาของหนูน้อยได้แล้วล่ะค่ะ

ขอบคุณรูปภาพประกอบจากคุณ Tonglak Boonsom2

update : 19.09.2560

ระบบมีการใช้งานคุกกี้บนเบราเซอร์ของคุณ หากต้องการใช้งานโปรดเปิดใช้งานคุกกี้ กรณีที่คุณใช้ Safari บน iPhone หรือ iPad โปรดปิดโหมดการเรียกดูส่วนตัว หากคุณลบข้อมูลคุกกี้ รายการโปรดที่คุณเลือกไว้จะถูกลบไปด้วย

แชร์

เคล็ดลับคุณแม่ที่เกี่ยวข้อง