ฮัดเช้ย!! เมื่อแม่เป็นหวัดลูกในท้องจะติดไหม ?

สุขภาพในระหว่างตั้งครรภ์เป็นสิ่งที่คุณแม่ควรดูแลและให้ความใส่ใจเป็นอย่างยิ่ง เพราะหากไม่สบายหรือมีอาการผิดปกติ บางอาการก็จะส่งผลกระทบไปถึงลูกน้อยในครรภ์ด้วย ยิ่งในฤดูร้อนนี้ที่มีอากาศแปรปรวน บางวันก็ร้อนจัด บางวันอาจจะมีฝนตกด้วย เดี๋ยวร้อน เดี๋ยวเย็น เดี๋ยวชื้น ยิ่งทำให้แม่ท้องที่มีระดับภูมิคุ้มกันต่ำกว่าปกติ เสี่ยงต่อการป่วยไข้ได้ง่าย โดยเฉพาะโรคที่เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ ที่ทำให้หายใจได้ลำบากขึ้น มีอาการไม่สบายเนื้อสบายตัว อย่างเช่น โรคหวัด  ซึ่งโดยทั่วไปเชื้อไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่จะไม่ติดไปหาลูกในท้องผ่านทางรก แต่จะเป็นการติดเชื้อที่มากับระบบทางเดินหายใจของคุณแม่

อาการเป็นหวัด แบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ

1.ไข้หวัดธรรมดา เป็นไข้หวัดแบบนี้ไม่ได้มีผลกระทบต่อทารกโดยตรง เนื่องจากเป็นการติดเชื้อที่ระบบหายใจส่วนบน ไม่ส่งผลต่อความพิการของทารกในครรภ์ แต่ถ้าคุณแม่เป็นหวัดแล้วไม่ได้รับการดูแลรักษาอย่างถูกต้อง อาจทำให้ลูกได้รับผลทางอ้อมจากการติดเชื้อได้ เช่น ถ้าคุณแม่มีไข้สูง มีอาการไอร่วมด้วยก็จะไปทำให้มดลูกบีบตัว ส่งผลกระทบถึงทารกในครรภ์ได้ โดยเฉพาะในคุณแม่ที่ท้องในช่วงครรภ์อ่อน ๆ อาจเสี่ยงต่อการแท้งได้

2.ไข้หวัดใหญ่ ที่มีอาการไข้สูง อาจมีการอาเจียน เบื่ออาหาร หรือกินอะไรไม่ได้ ซึ่งอาจทำให้ทารกในครรภ์ได้รับสารอาหารไม่เต็มที่ ส่งผลต่อพัฒนาการของทารก และในระยะยาวอาจเกิดปัญหาทารกเจริญเติบโตช้าในครรภ์ตามมาได้

ในปัจจุบันกระทรวงสาธารณะสุขได้มีโครงการฉีดวัคซีนป้องกันให้คุณแม่ตั้งครรภ์ที่ถือเป็นหนึ่งในกลุ่มเสี่ยงได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ ซึ่งก็ยังป้องกันได้เฉพาะบางสายพันธุ์ ขึ้นอยู่กับความต้านทานของแม่แต่ละคนด้วย ที่น่าเป็นห่วงก็คือ อันตรายจากการเป็นหวัดแล้วเกิดอาการแทรกซ้อนอื่น ๆ เช่น อาการติดเชื้อในปอด

ดังนั้นไม่ว่าจะตั้งครรภ์ในระยะใด หากคุณแม่เริ่มรู้ตัวว่ามีอาการของไข้หวัด หากเป็นไข้หวัดธรรมดา ควรดูแลพักผ่อนให้มาก กินอาหารที่ประกอบด้วยผักผลไม้ เพื่อให้ร่างกายได้รับวิตามินและเกลือแร่ คาร์โบไฮเดรต และไขมันในปริมาณที่เหมาะสม ดื่มในปริมาณที่มาก ร่างกายก็จะดีขึ้นภายในเวลา 1 สัปดาห์ แต่หากคุณแม่รู้สึกตัวแย่แล้วมีอาการไข้สูง ควรรีบพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยรักษาอาการนะคะ

ป่วยบ่อยแบบนี้ จะอันตรายกับลูกในท้องหรือเปล่า คนท้องไม่สบาย โรคไหนที่น่ากังวล โรคที่อันตรายกับคนท้อง

แม่ตั้งครรภ์มีโอกาสที่จะเป็นไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่อย่างน้อย 1 ครั้งในช่วงตลอดการตั้งครรภ์ 9 เดือน หากเป็นไข้หวัดธรรมดา อาการไม่รุนแรงมาก จะไม่มีผลกระทบต่อทารกในครรภ์ เพียงแค่ร่างกายของแม่ท้องอาจจะหายช้ากว่าตอนที่ยังไม่ตั้งครรภ์ เพราะตอนท้องภูมิต้านทานของแม่จะลดลง แต่ถ้าคุณแม่มีไข้สูงเกิน 38 องศา รู้สึกผิดปกติ ให้จับสังเกตตัวเองให้ดี ถ้ารู้สึกว่ามีอาการรุนแรง หรือไม่สบายนานเกิน 1 สัปดาห์ แม่อย่านิ่งนอนใจ ควรรีบไปพบแพทย์ ไม่ควรซื้อยามากินเอง

เมื่อคนท้องไม่สบาย เป็นโรคที่เกิดในระบบทางเดินอาหาร ซึ่งมักจะพบบ่อย ว่าเกิดจากกระเพาะอาหารหรือลำไส้อักเสบจากเชื้อไวรัส โรคระบบทางเดินอาหารหายได้เองภายใน 24 ชั่วโมงหลังมีอาการ ถ้าคนท้องไม่สบายเรื้อรังก็จะไม่เกิน 3 วัน ซึ่งอาจทำให้แม่ท้องทานอะไรไม่ค่อยได้ แต่จำเป็นต้องดื่มน้ำให้มาก การติดเชื้อแบบนี้มักไม่มีอันตรายใด ๆ ต่อทารกในครรภ์ แต่ควรดูแลตัวเองอย่างถูกต้อง เช่น ในช่วงที่เกิดอาการ 12 ชั่วโมงแรก ไม่ควรทานอาหารใด ๆ โดยเฉพาะคนที่กระเพาะอาหารอักเสบจากเชื้อไวรัส ควรงดอาหารและน้ำ 12 - 24 ชั่วโมง จึงค่อยเริ่มกินอาหารอ่อน ๆ ที่ย่อยง่าย อาทิ โจ๊ก ข้าวต้ม ผักต้มเปื่อย จนอาการดีขึ้นแล้วค่อยกินอาหารตามปกติ แต่หากพบว่ามีอาการแย่ลงควรรีบไปพบแพทย์

ปกติแล้วหมอมักจะแนะนำให้ฉีดวัคซีนป้องกันหัดเยอรมันก่อนที่จะตั้งครรภ์และเว้นช่วงไม่ให้ตั้งครรภ์หลังจากฉีดวัคซีนอย่างน้อย 2 เดือน สำหรับแม่ที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนป้องกันก็ต้องตรวจดูว่ามีภูมิต้านทานอยู่หรือไม่ เพราะแม่บางคนมีภูมิต้านทานอยู่แล้ว

โรคหัดเยอรมันจะมีอันตรายต่อทารกในครรภ์เมื่อมีการติดเชื้อ อาการใน 2 - 3 สัปดาห์แรกจะมีเพียงเล็กน้อยจนแทบไม่รู้สึกว่ามีอาการผิดปกติ เช่น มีไข้ต่ำ ๆ ปวดเมื่อยตัว และต่อมน้ำเหลืองโต ผลกระทบที่ลูกน้อยในครรภ์จะได้รับ มากหรือน้อยขึ้นอยู่กับอายุครรภ์ และไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อได้ ถ้ามีการติดเชื้อในเดือนแรก ลูกอาจจะคลอดออกมาแล้วพิการถึงร้อยละ 35 ในขณะที่การติดเชื้อในเดือนที่ 3 โอกาสที่จะพิการและความรุนแรงลดน้อยลง คือร้อยละ 10 - 15

โรคท็อกโซพลาสโมซิส เกิดจากการติดเชื้อที่เรียกว่า ท็อกโซพลาสมา เกิดขึ้นจากการกินเนื้อดิบที่มีเชื้อนี้อยู่ หรือสัมผัสกับอุจจาระแมวที่ติดเชื้อนี้ เมื่อคนท้องไม่สบาย แม่ตั้งครรภ์ติดเชื้อนี้เข้าอาจทำให้ทารกในครรภ์เสียชีวิตหรือต้องคลอดก่อนกำหนด หรือเกิดความผิดปกติของสมองได้

แม่ตั้งครรภ์ที่มีการติดเชื้อสเตรปกลุ่มบีถือว่าเป็นอันตรายกับทารกในครรภ์มาก อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ โดยปกติการติดเชื้อนี้จะอยู่ในช่องคลอดที่ไม่ปรากฏอาการให้เห็น แพทย์จะนำมูกจากช่องคลอดไปตรวจหาเชื้อ หากพบเชื้อก็จะให้ยาปฏิชีวนะที่มากพอตั้งแต่ก่อนคลอด จึงทำให้ไม่มีการติดเชื้อต่อทารกในครรภ์ ซึ่งการติดเชื้อชนิดนี้จะเป็นสิ่งที่พบได้น้อย เนื่องจากทางการแพทย์จะระวังโรคนี้มาก

การฉีดวัคซีนป้องกันหัด ควรฉีดก่อนเริ่มตั้งครรภ์ เพราะการฉีดวัคซีนเหมือนกับการให้ร่างกายได้รับเชื้อโดยตรงเพื่อไปกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกัน ซึ่งเชื้อที่ถูกฉีดเข้าไปอาจมีผลกระทบต่อทารกในครรภ์ได้ หากแม่ท้องติดเชื้อช่วงใกล้คลอด อาจทำให้ทารกเกิดภาวะติดเชื้อไวรัสในเลือด แพทย์จะให้แกมม่าโกลบูลินแก่ทารกทันทีที่เกิดเพื่อลดความรุนแรงจากการติดเชื้อ

ร้อยละ 10 ของแม่ตั้งครรภ์จะมีการติดเชื้อ 1 ครั้งและคนที่ติดเชื้อแล้ว 1 ใน 3 คนจะติดเชื้อซ้ำอีกได้ อาการที่พบบ่อยคือ กระเพาะปัสสาวะอักเสบซึ่งมักจะไม่แสดงอาการ แต่พบได้เมื่อมีการตรวจปัสสาวะในตอนฝากครรภ์ ถ้าพบการติดเชื้อจะต้องรีบรักษาให้หายโดยเร็วที่สุดเพื่อป้องกันการลุกลามของเชื้อ นอกจากนี้ การติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะอาจนำไปสู่การติดเชื้อที่กรวยไต หากไม่ได้รับการรักษาจะทำให้กรวยไตอักเสบซึ่งจะเป็นอันตรายต่อตัวแม่ท้องและลูกในครรภ์ และหากเป็นกรวยไตอักเสบในช่วงหลังอายุครรภ์เดือนที่ 7 เป็นต้นไป จะทำให้เกิดการคลอดก่อนกำหนดได้

โรคนี้สามารถถ่ายทอดจากแม่มาสู่ลูกในครรภ์ได้ หากคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ป่วยด้วยโรคตับอักเสบบี ควรดูแลและรักษาตัวเองด้วยการกินอาหารที่มีประโยชน์และพักผ่อนให้เพียงพอ งดแอลกอฮอล์ทุกชนิด ร้อยละ 95 ของคนท้องที่ไม่สบายเป็นโรคนี้ ร่างกายจะฟื้นกลับมาได้เอง

อาการของโรคอีสุกอีใส หากเกิดขึ้นในผู้ใหญ่จะรุนแรงกว่าเด็ก หากมาเป็นในช่วงที่แม่กำลังตั้งครรภ์จะต้องได้รับแกมม่าโกลบูลินภายใน 96 ชั่วโมงหลังการสัมผัสโรค ให้ระวังภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ ที่อาจเกิดอันตรายต่อทารกในครรภ์ได้

เพื่อป้องกันคนท้องไม่สบาย แม่ท้องควรจะดูแลสุขภาพให้ดี เลือกกินอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายบ้าง และหลีกเลี่ยงการใกล้ชิดกับผู้ป่วย ที่สำคัญ คือการฉีดวัคซีน ถ้าแม่ฉีดวัคซีนสำคัญสำหรับคนท้องตั้งแต่ก่อนตั้งครรภ์ได้ก็ดี แต่ถ้ายังไม่ได้ฉีดวัคซีน ก็มีวัคซีนบางชนิดที่คนท้องฉีดได้ระหว่างตั้งครรภ์

ในระหว่างนี้เอง นอกจากการดูแลสุขภาพให้แข็งแรงแล้ว คุณแม่ยังควรเตรียมของใช้ที่จำเป็นสำหรับวันคลอดไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ โดยเฉพาะของใช้สำหรับลูกน้อยที่ขาดไม่ได้เลย คือ ผ้าอ้อมสำเร็จรูปที่มีส่วนประกอบคุณภาพ อย่าง มามี่โพโค ซุปเปอร์ พรีเมี่ยม ออร์แกนิค ผลิตจากปุยฝ้ายธรรมชาติ (ออร์แกนิค คอตตอน) จึงนุ่มและอ่อนโยนเป็นพิเศษต่อผิวของทารกแรกเกิด ทั้งยังมี "ออร์แกนิค สปีดเวฟ" ช่วยให้ซึมซับปัสสาวะได้รวดเร็ว คลายกังวลเรื่องความอับชื้น อันเป็นสาเหตุหลักของผดผื่นต่าง ๆ หากคุณแม่เตรียมผ้าอ้อมสำเร็จรูปและของใช้อื่น ๆ ครบแล้ว เมื่อหนูน้อยคลอดและกลับมาบ้าน ก็จะช่วยลดความวุ่นวาย คุณแม่เองก็จะได้ไม่ต้องคอยกังวลว่ายังขาดเหลืออะไรในภายหลังค่ะ

Credit content: www.th.theasianparent.com