4 สไตล์การนอนของเบบี๋ที่คุณแม่ต้องเข้าใจ

        การนอนหลับของเด็กแรกเกิด เป็นเรื่องสำคัญที่คุณแม่ควรรู้และทำความเข้าใจ เพราะเด็กเบบี๋แต่ละคนมีสไตล์การนอนที่ต่างกัน ทั้งนอนยาก ตื่นง่าย หรือชอบร้องไห้ งอแง คำแนะนำด้านล่างต่อไปนี้จะช่วยให้คุณแม่ เข้าใจการนอนของเบบี๋มากขึ้น และรู้ว่าต้องรับมือกับเบบี๋อย่างไร เพื่อช่วยให้เขาได้พักผ่อนนอนหลับเต็มที่ เพราะการนอนเป็นปัจจัยสำคัญอีกหนึ่งอย่างที่ช่วยให้พัฒนาการตามวัยของเบบี๋ดียิ่งขึ้น  ถ้าพร้อมแล้วมาดูกันว่ามีอะไรบ้าง    

เด็กบางคนนอนแค่สั้นๆ ไม่นอนนาน ครั้งละประมาณ 30-45 นาที ซึ่งเวลาในการหลับแต่ละครั้งก็ไม่แน่นอน สั้นยาวไม่เท่ากัน

วิธีแก้ : เบบี๋ที่นอนบ่อยๆ ครั้งละสั้นๆ จะตื่นได้นานประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง - 2 ชั่วโมงจึงจะถึงเวลาหลับครั้งต่อไป เพื่อให้ลูกนอนหลับเป็นเวลามากขึ้น อาจใช้วิธีปลุกให้ตื่นในตอนเช้าเวลาเดียวกันทุกวัน เช่น ปลุกตอน 7 โมงเช้าของทุกวัน และพยายามให้ลูกนอนหลับ ในอีกสองชั่วโมงถัดไป พยายามให้ลูกนอนเป็นเวลาเทคนิคสำคัญคือ คุณแม่ควรเอาลูกเข้านอนโดยไม่ต้องรอให้เขาง่วง เนื่องจากส่วนใหญ่เบบี๋จะเหนื่อยและอยากงีบหลับก่อนที่จะส่งสัญญาณต่างๆ ออกมาว่าเขาง่วงนั่นเอง

เด็กบางคนนอนได้ยาวตลอดทั้งคืน แต่ตื่นเช้ามาก เช่น ตื่นมาตอนตี 4 หรือตี 5 จนบางครั้งทำให้คุณพ่อคุณแม่เหนื่อยไปตามๆ กัน

วิธีแก้ : ถ้าคุณพ่อคุณแม่พาลูกน้อยเข้านอนตอน 6 โมงเย็นหรือ 1 ทุ่ม เป็นเรื่องธรรมดาสำหรับลูกน้อยที่จะตื่นขึ้นมาตอนตี 5 หรือ 6 โมงเช้า เพราะยิ่งนอนไวลูกก็ได้หลับไว และตื่นเช้า ถ้าคุณแม่อยากให้เบบี๋ตื่นสายขึ้น ลองพาเขาเข้านอนช้ากว่าเดิมสัก 15-30 นาที อาจช่วยให้ลูกตื่นสายขึ้นได้บ้าง แต่ถ้ายังไม่ได้ผล แสดงว่าลูกเป็นเด็กที่ตื่นเช้าโดยธรรมชาติ ให้ลองใช้เทคนิคทำราวกับว่าเวลาที่เบบี๋ตื่นคือตอนกลางคืน คุณพ่อคุณแม่ควรปิดม่านหรือไม่ต้องเปิดไฟให้สว่างมาก และพยายามกล่อมให้เบบี๋หลับต่ออีกสักพัก

เด็กบางคนไม่มีปัญหาในการหลับ แต่จะรู้สึกตัวและตื่นง่ายมาก แม้กระทั่งเสียงคุณแม่ทำงานบ้านเล็กๆ น้อยๆที่ไม่ได้ดังมาก เสียงแตรรถยนต์ หรือแสงที่ส่องเข้ามาในที่นอนเพียงเล็กน้อยก็ทำให้ตื่นได้แล้ว

วิธีแก้ : ปกติเด็กมักจะรู้สึกตัวตื่นสั้นๆ ไม่กี่นาทีระหว่างที่นอนหลับ แล้วสามารถหลับต่อได้เอง แต่สำหรับเด็กที่รู้สึกตัวตื่นได้ง่ายมาก คุณพ่อคุณแม่ควรเปิดโอกาสให้ลูกเรียนรู้ที่จะหลับต่อไปด้วยตัวเอง ไม่ควรเข้าไปโอ๋หรืออุ้มทันที และควรจัดสิ่งแวดล้อมในห้องให้เอื้ออำนวยให้ลูกนอนหลับได้ลึก อย่างเช่น ห้องนอนลูกควรมืดสนิท อุณภูมิอบอุ่นพอเหมาะ ไม่ร้อนหรือไม่หนาวจนเกินไป อาจลองใช้เสียงเพลงเบาๆ เพื่อกล่อมเขา และกลบเสียงรบกวนจากภายนอก และเลือกใช้ผ้าอ้อมที่อ่อนโยนต่อผิวลูกอย่างมามี่โพโค ซุปเปอร์พรีเมี่ยม ออร์แกนิค ที่นุ่ม อ่อนโยน ซึมซับได้ดีทำให้แห้งสบาย ไม่มีปัญหาอับชื้นกวนใจลูกแน่นอน

เด็กบางคนนอนหลับยากมาก ไม่ยอมนอนบนที่นอนของตัวเอง นอนหลับไม่เป็นเวลา และจะไปนอนหลับบนคาร์ซีทหรือ หลับในเวลาที่ไม่ควรหลับ หรือเด็กบางคนอาจหลับได้ง่ายที่บ้าน แต่เมื่อต้องออกไปนอกบ้าน กลับหลับไม่ได้เลย ซึ่งเด็กหลับยากอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ ส่วนใหญ่เกิดจากคุณพ่อคุณแม่สร้างเงื่อนไขในการนอนตั้งแต่แรก เช่น ต้องอุ้มโยกไปมาทุกครั้งเพื่อนอนหลับ ทำให้เด็กเกิดการจดจำว่าทุกๆ ครั้งที่จะนอนต้องทำสิ่งเหล่านี้

วิธีแก้ : ต้องใช้ตัวช่วย เช่น ของเล่นที่ลูกชอบ ตุ๊กตาตัวโปรด หรือเสื้อยืดตัวเก่าของคุณแม่วางไว้ในที่นอน เพื่อให้ลูกนอนหลับในที่นอนของตนเองได้ง่ายขึ้น เพื่อฝึกให้ลูกมีความยืดหยุ่นในการหลับมากขึ้น    

ถ้าในกรณีลูกหลับยากเมื่ออยู่นอกบ้าน แนะนำว่าก่อนเดินทางประมาณ 1-2 สัปดาห์ อาจจะมี 1-2 วันที่คุณแม่ให้ลูกงีบหลับช่วงเช้ายาวหน่อย ไม่ต้องนอนหลับในช่วงบ่าย หรือถ้าไม่อยากให้ลูกหลับบนรถจนผิดเวลาแล้วกลับมาไม่ยอมนอน คุณพ่อคุณแม่อาจกระตุ้นให้ลูกตื่นด้วยการพูดคุย ร้องเพลง หรือเปิดซีดีสนุกๆ แล้วค่อยกลับมากล่อมให้หลับที่บ้านนั่นเอง

ไม่ว่าเบบี๋จะมีรูปแบบการนอนแบบไหน ความสบายตัวคือสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้เบบี๋นอนหลับสบายเต็มอิ่มมากขึ้น เพราะฉะนั้นคุณแม่ควรเลือกผ้าอ้อมที่แห้งสบาย และอ่อนโยนต่อผิวเบบี๋ อย่างผ้าอ้อมมามี่โพโค ซุปเปอร์พรีเมี่ยม ออร์แกนิค ที่นุ่ม อ่อนโยนด้วยส่วนผสมของออร์แกนิค คอตตอน ลดสาเหตุการระคายเคือง ช่วยให้เบบี๋หลับสบายหมดปัญหาเรื่องผดผื่นผ้าอ้อมมากวนใจอย่างแน่นอน